วันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2555

พักหัวใจที่ยอดผาชู้ อุทยานแห่งชาติศรีน่าน


          บรรยากาศในยามนี้ ทางภาคเหนือ เริ่มเข้าสู่หน้าหนาวกันแล้ว อากาศยามเช้าตรู่ สัมผัสได้ถึงความหนาวเย็น หากได้ขึ้นไปบนยอดเขา โดยเฉพาะที่อุทยานแห่งชาติศรีน่าน จ.น่าน จะสามารถมองเห็นทะเลหมอกได้จากยอดผาชู้ และเมื่อหมอกจางจะมองเห็นลำน้ำน่านทอดตัวคดเคี้ยวอยู่ที่ปลายผืนป่า เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าจะหาโอกาสไปเยี่ยมเยือนสักครั้งในชีวิต


        อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งขวาของแม่น้ำน่านตอนใต้ ป่าสงวนแห่งชาติป่าห้วยงวง ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำว้าและป่าห้วยสาลี ครอบคลุมพื้นที่ 7 ตำบล 3 อำเภอ คือ ตำบลส้าน และตำบลน้ำมาบ อำเภอเวียงสา ตำบลศรีษะเกษ ตำบลเชียงของ และตำบลสถาน อำเภอนาน้อย ตำบลบ่อแก้ว และตำบลนาทะนุง อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน อุทยานแห่งชาติศรีน่าน มีพื้นที่ประมาณ 934 ตารางกิโลเมตร หรือ 583,750 ไร่

   จุดหนึ่งที่น่าสนใจและอยากแนะนำให้ไปกัน คือ จุดชมวิวผาชู้


• จุดชมวิวผาชู้ เป็นจุดชมวิวที่ติดกับถนนที่เป็นหน้าผาใหญ่โดดเด่น สามารถมองเห็นทิวทัศน์และแม่น้ำน่านที่ทอดตัวคดเคี้ยวไปตามที่ราบลุ่มอย่างงดงาม การเดินทางให้ไปตามเส้นทางเดียวกับทางไปแก่งหลวง แต่ถึงก่อนแก่งหลวง จะมองเห็นวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำน่านและสภาพป่าไม้ที่สวยงามตลอดจนโขดหินและหน้าผาต่างๆ


      หากจะขึ้นไปชมต้องขึ้นแต่เช้ามืดก่อนพระอาทิตย์ขึ้นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ช่วงใกล้ขึ้นถึงยอดจะเป็นหินแหลมคม จึงต้องเตรียมรองเท้าผ้าใบที่ใส่กระชับไปด้วยเพื่อความสะดวกในการปีนป่าย ใช้เวลาในการเดินประมาณ 1 ชั่วโมง ผู้ที่ประสงค์จะเดินขึ้นยอดผาชู้ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางที่อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ตู้ ปณ.14 อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน 55150

      คำว่า “ ชู้ ” ไม่ได้หมายถึงชู้สาว แต่หมายถึงคนรัก ซึ่งผาชู้แห่งนี้มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชันมีทิวทัศน์สวยงาม และยังมีเรื่องราวเป็นตำนานในหลายเวอร์ชั่นเล่าสืบต่อกันมา    




ผาชูธง





       ตามตำนานที่เล่ากันมาเกี่ยวกับผาชู้กล่าวว่า เจ้าเอื้องผึ้งซึ่งเป็นคู่รักกับเจ้าจันทน์ผา จำใจต้องแต่งงานกับเจ้าจ๋วง เจ้าเอื้องผึ้งเสียใจที่ไม่ได้แต่งงานกับคนที่ตัวเองรักจึงตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดจากหน้าผา เจ้าจันทน์ผาตามมาพบว่าเจ้าเอื้องผึ้งได้กระโดดหน้าผาไปแล้ว จึงกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตายตามคนรักตกไปอยู่ใกล้กัน และเจ้าจ๋วงได้เห็นหญิงที่ตนรักกระโดดหน้าผาไปจึงรู้สึกเสียใจและตัดสินใจกระโดดหน้าผาตามลงไปด้วยแต่กระเด็นห่างออกไป ด้วยความรักแท้ระหว่างเจ้าเอื้องผึ้งและเจ้าจันทน์ผา ในชาติต่อมาเจ้าเอื้องผึ้งจึงเกิดเป็นดอกกล้วยไม้เกาะอยู่ใต้ต้นจันทน์ผา   และเจ้าจ๋วงก็เกิดเป็นต้นสน ณ จุดที่ตกไปนั้นเอง ( “จ๋วง” เป็นภาษาเหนือแปลว่าต้นสน “เอื้องผึ้ง” แปลว่ากล้วยไม้) หน้าผาแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า “ผาชู้” นับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

        ส่วนอีกตำนานหนึ่งซึ่งเป็นต้นแบบแห่งการเขียนเพลง เอื้องผึ้ง จันผา ของอ.จรัล มโนเพ็ชร ได้มีผู้เล่าต่อกันมาว่า แต่เดิมเอื้องผึ้งและจันทร์ผานั้น เป็นคู่รักกัน ทั้งสองให้สัญญาว่าจะรักกันตลอดไป ไม่พรากจากกัน ถ้าหากแม้นคนหนึ่งตายไป อีกคนหนึ่งก็ไม่ขออยู่ต่อ และแล้วโศกนาฏกรรมก็มาถึง หนุ่มจันทร์ผา พาสาวเอื้องผึ้งไปเที่ยวที่ดอย เขาเห็นดอกไม้ชนิดหนึ่ง มีกลิ่นหอม งอกอยู่ที่ต้นไม้ริมผา จึงคิดจะเก็บมาให้สาวเอื้องผึ้ง คนรักของตน จึงปีนไปเก็บดอกไม้ชนิดนั้นมา แม้เอื้องผึ้งจะห้ามแต่จันทร์ผาก็ยังพยายามจะไปเด็ดดอกไม้มาให้ได้

และแล้วในที่สุดสิ่งที่เอื้องผึ้งกลัวก็เป็นความจริง จันทร์ผาพลาด ตกลงไปในเหว เลือดไหลนอง คอหัก ตายสนิท เอื้องผึ้งร่ำไห้ หัวใจแตกสลาย จึงวิ่งเอาหัวชนกับแง่หินที่หน้าผา ตายตามจันทร์ผา เหมือนที่เคยให้สัญญาว่าจะรักกันตลอดไป ดอกไม้ที่จันทร์ผาพยายามจะเก็บนั้น ต่อมาคนให้ชื่อว่า ดอกเอื้องผึ้ง ส่วนที่ๆจันทร์ผาตกลงไปตาย ก็มีต้นไม้ชนิดหนึ่งงอกขึ้นมา ผู้คนกล่าวขานเรียกว่า ต้นจันทร์ผาเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ความรักที่ยั่งยืนของคนทั้งคู่ตลอดไป....

บ้างก็เล่าว่ามีหนุ่มสาวคู่หนึ่งเกิดรักกัน โดยที่ครอบครัวของฝ่ายหญิงมีฐานะดีกว่าฝ่ายชาย จึงถูกกีดกันจากญาติของผู้ใหญ่ ด้วยความรักกัน ฝ่ายหญิงจึงมา ณ ที่แห่งนี้แล้วได้กระโดดหน้าผาฆ่าตัวตาย เมื่อฝ่ายชายทราบเรื่องจึงตามมาและได้พบศพของหญิงสาว จึงเสียใจและกระโดดหน้าผาตายตามกัน หน้าผาแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า ผาชู้ นับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
     
แต่อีกบางตำนานก็ว่าเป็นเรื่องราวของบุตรสาวผู้เลอโฉมของเจ้าเมืองน่าน ไปหลงรักชายหนุ่มสามัญชนผู้ต้อยต่ำ แต่ถูกกำแพงแห่งชนชั้นขวางกั้น จึงพากันหลบหนีไป ฝ่ายเจ้าเมืองน่านจึงได้สั่งให้ทหารออกติดตามมาจนถึงหน้าผาแห่งนี้ ครั้นเมื่อจวนตัวทั้งสองหมดหนทางที่จะหนีต่อไปได้ จึงตัดสินใจกระโดดหน้าผาสูงชันลงมาสิ้นใจ เพราะไม่ต้องการพรากจากคนรัก.....ต่อมาชาวบ้านจึงเรียกหน้าผาแห่งนี้ว่า “ ผาชู้ ”

และบ้างก็บอกว่า ที่มาของชื่อ ผาชู้ นั้นมาจากคำว่า ผาชูธง เนื่องจากบนยอดผานั้น มีเสาธงปักอยู่ และมีการโรยเชือกลงมาด้านล่าง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ชักธงขึ้นสู่ยอดเสาบนผาได้ นับเป็นสายธงชาติที่ยาวที่สุดในประเทศไทย คือมีความยาวถึง 200 เมตรเลยทีเดียว นอกจกนี้ที่จุดชมวิวผาชู้ ยังสามารถมองเห็นทิวทัศน์และแม่น้ำน่านที่ทอดตัวคดเคี้ยวไปตามที่ราบลุ่มอย่างงดงาม




สำหรับท่านที่สนใจ อยากจะไปชมบรรยากาศที่ผาชู
ทางเมจิกออนทัวร์:  มีความภูมิใจเสนอโปรแกรมท่องเที่ยวบนเส้นทางมหัศจรรย์ 4 วัน 3 คืน  

N1A02 มหัศจรรย์น่าน กระซิบรักทุกดอยสูง เสมอดาว ดอยวาว ผาชู้ ภูคา นันทบุรี บ่อเกลือ ปัว 4D3N


ณ “ ดินแดนแห่งศิลปะและธรรมชาติ แพร่ น่าน ” สักการะพระธาตุปีเกิด ขาล เถาะ ท่องวัด ชมลวดลายศิลปะปูนปั้นสวยงามวิจิตรบรรจง สืบสานประเพณีโบราณของ
ชาวล้านนา ตื่นตาทะเลหมอกดอยงาม เสมอดาว ผาหัวสิงห์ ผาชู้  เที่ยวอุทยานแห่งชาตินันทบุรี ขึ้นดอยวาว ชมทิวทัศน์ทะเลภูเขาสลับซับซ้อนที่สวยงามไม่แพ้
ดอยใดในประเทศไทย ท่องอำเภอปัว ชมต้นชมพูภูคา ณ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ตื่นตามหัศจรรย์บ่อเกลือสินธุ์เทาโบราณบนภูเขาสูง  พักอำเภอปัว เมืองที่โอบกอด
ด้วยธรรมชาติเติมเต็มทริปเที่ยวของท่านด้วยที่พักระดับมาตรฐาน  โดดเด่นด้วยอาหารท้องถิ่น ร่วมทริปสุขใจไปกับทีมงานมัคคุเทศก์มืออาชีพที่คอยดูแลเอาใจใส่ท่านตลอดการเดินทางแล้วคุณจะรู้ว่า
 “ มหัศจรรย์ของความฝันไม่ใช่สิ่งที่แตะต้องไม่ได้อีกต่อไป ”

 กำหนดการเดินทาง : กรุ๊ปเหมาตั้งแต่ 8 ท่านขึ้นไป ออกเดินทางได้ทุกวัน / กรุ๊ปหน้าร้าน กำหนดการเดินทางดังนี้
เดือนตุลาคม  :  19 - 22 วันปิยมหาราช  20 - 23 , 25 – 28
เดือนพฤศจิกายน  :  01 - 04 , 08 - 11 , 15 - 18 , 22 - 25 , 29 - 02 ธ.ค.55    
เดือนธันวาคม  :  วันรัฐธรรมนูญ 07 - 10 , 13 - 16 , 20 - 23 ส่งท้ายปีเก่า 28 - 31 ม.ค.56  ต้อนรับปีใหม่ 29 - 01 ม.ค.56  
เดือนมกราคม 2556  :  ฉลองปีใหม่  03 - 06 , 10 - 13


คลิกดูรายละเอียดที่
N1A02 มหัศจรรย์น่าน กระซิบรักทุกดอยสูง เสมอดาว ดอยวาว ผาชู้ ภูคา นันทบุรี บ่อเกลือ ปัว 4D3N 




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น