วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

บทความ โรแมนติกกลางลมหนาว “ไต้หวัน” ในหุบเขาและสายรุ้ง ใน นิตยสารเดลินิวส์หนีเที่ยว


         บทความ โรแมนติกกลางลมหนาว  “ไต้หวัน” ในหุบเขาและสายรุ้ง ได้ถูกตีพิมพ์ เผยแพร่ไปแล้ว ใน นสพ.เดลินิวส์ ฉบับ วันศุกร์ ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556 ในนิตยสารหนีเที่ยว   ปีที่ 3 ฉบับที่ 28 ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2556   (นิตยสารท่องเที่ยวที่มีผู้อ่านมากที่สุด) ^__^

        แต่หลายท่านยังไม่มีโอกาสได้อ่านบทความเรื่องนี้ เมจิกออนทัวร์จึงขอนำบทความชิ้นนี้ มาให้อ่านกันค่ะ






         โรแมนติกกลางลมหนาว  “ไต้หวัน” ในหุบเขาและสายรุ้ง

ด้วยลมหนาวพัดเรามายังเมืองเล็กๆ น่ารักอย่าง “จีหลง” เหนือสุดเกาะไต้หวัน ไต่ความสูงไปบนภูเขาลูกย่อมๆ หลายต่อหลายลูก มองมุมไกลทำให้เห็นมิติตัดเส้นขอบฟ้าริมชายทะเล แน่นอนว่าหนาวเช่นนี้ถ้าได้อยู่ในผ้าห่มหรือกุมมือคนรักถือเป็นเรื่องวิเศษ

รถพาเราวิ่งเลียบถนนชายทะเล ไกด์ท้องถิ่นพาเราย้อนกลับไป 50 ปีก่อน บนถนนสายนี้ผู้คนมุ่งตรงมายังเหมืองทองในหุบเขา ยิ่งเมื่อญี่ปุ่นเข้ายึดครองไต้หวันทองคำที่นี่ก็ถูกถ่ายเทไปยังดินแดนอาทิตย์อุทัย หากนึกภาพไม่ออกลองมองลงไปยังหาดเห็นทะเลสองสี ซึ่งน้ำทะเลส่วนหนึ่งก่อนกระทบฝั่งเป็นสีปนทองขุ่นๆ คนแถบนี้เชื่อว่าเป็นเพราะแต่ก่อนมีการขุดทองมากทำให้สายทองยังคงปนกับน้ำทะเลอยู่จนปัจจุบัน

แต่ถนนเคยคลาคล่ำนักขุดทองของเมืองนี้ก็เงียบลง หลังแร่ทองต่างๆ หมดลง แต่ชาวบ้านยังใช้ชีวิตเงียบสงบบนพื้นที่ลาดไหล่เขาลูกย่อมๆ แล้วรถก็หย่อนเราลงบนเนินสูงชมน้ำตกธารทอง น้ำหลายสายไหลมาบรรจบกันเป็นเส้นเดียว เบื้องหลังเป็นภูเขาลูกย่อมสามลูกซ้อนทับ เดิมพื้นที่ตรงนี้เป็นเหมืองทองและถูกขุดเจาะเหมือนหลายที่ ต่างที่ตรงนี้ขุดไปแล้วเจอตาน้ำไหล จนต้องปล่อยให้เป็นน้ำตกอย่างที่เห็น และลองเดินเลียบถนนหันหน้าไปยังมุมสูงของทะเล จะเห็นบ้านเรือนซ้อนตัวตามไหล่เขาท้าทายลมทะเลและรอความอบอุ่นจากแสงแดด

ถนนย่านนี้ไม่กว้างนักทำให้นักท่องเที่ยวที่มารถบัสไม่ปลอดภัยเท่าไหร่ แต่ถ้าพูดถึงทิวทัศน์สองข้างทางนับว่ากินลมชมวิวกันอิ่มสบาย ลมหนาวทุเลาลงเมื่อมาถึงหมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น ทอดตัวบนที่ราบด้านหน้าเป็นตรอกขนาบข้างด้วยร้านรวงทั้งของที่ระลึก และของกินที่ขึ้นชื่อคือบัวลอยเผือก แน่นอนว่าถ้าใครจูงมือกันมากินคงสนุกไม่เบา ตรอกนี้ทอดยาวจนต้องใช้เวลาเดินเกือบครึ่งชั่วโมง

ที่น่าสนใจกว่านั้นคือตรอกเล็กๆ ที่แยกออกจากตรอกใหญ่ซึ่งผู้คนจอแจ เราลองเดินออกนอกทางหลักลงบันไดไปตามไหล่เขา บ้านชาวบ้านเงียบสงบน่ารักดีไม่น้อย ดูไปเหมือนคนละโลกกับตรอกด้านบน ผู้คนที่นี่ยังใช้ชีวิตปกติ เจ้าแมวตัวอ้วนขดขาท้าลมหนาวชะเง้อคอมองผู้มาเยือน มองเผินๆ พื้นที่ซึ่งมีน้อยอาจยากในการปลูกต้นไม้ แต่พวกเขาทำได้ดีในการสร้างบ้านให้กลมกลืนกับไม้ใหญ่ หรือมีสวนขนาบทางเดิน

มาถึงตรงนี้ฝนเทลงมาทำเอาเจ้าเหมียวกระโจนไปนอนเกือกกลิ้งในชายคาบ้าน เราเองก็ต้องกลับไปบนเส้นทางหลัก เมื่อถึงทางโค้งหักซอกเดินไปได้ไม่นานร้านค้าต่างๆ เริ่มหายไป ตรงนี้มีจุดชมวิวรอลมทะเล คู่รักบางคู่กางร่มในสายฝนอย่างโรแมนติก แต่ใครบางคนก็คล้องแขนกันอย่างอบอุ่นเมื่อเห็นสายรุ้งทอดตัวโค้งกลางหุบเขา เรามาตกหลุมรักตรงแถวท้ายซอยนี้หละ เพราะบ้านแถบนี้รูปทรงเก่าดั่งเดิม บางแห่งเปิดเป็นร้านกาแฟนั่งสบาย จึงไม่แปลกที่เห็นหลายคู่เดินไปคุยไปไม่กลัวเป็นหวัด เราเลยนิยามที่แห่งนี้ว่า “หมู่บ้านแมวในหุบเขาและสายรุ้ง”

ไม่ทันไรต้องกลับไทเปเสียแล้ว เพราะต้องไปทำพายสับปะรดที่ขึ้นชื่อของไต้หวันในโรงงาน Vigor ซึ่งเป็นต้นตำรับพัฒนาจนมี 13 รสชาติ หากใครพาเด็กๆ มาด้วยจะสนุกกับการได้ลองทำขนมจริงๆ โดยเสียค่าเข้าร่วมกิจกรรมคนละ 250 บาท ได้อร่อยกับขนมฝีมือตัวเองอีกด้วย

  แสงเย็นกำลังระบายขอบฟ้าเมื่อถึงหอรำลึกเจียงไคเช็ค เป็นสถานที่สำคัญของคนไต้หวัน มีลานกว้างให้ออกกำลังกายพักผ่อนกับครอบครัว จึงไม่แปลกที่ไกด์บอกว่าถ้าเมื่อไหร่รัฐเก็บค่าเข้าการประท้วงจะเกิดขึ้น เนื่องจากทุกคนถือว่าสถานที่นี้เป็นหัวจิตหัวใจการสร้างชาติเป็นปึกแผ่นจนทุกวันนี้

ตัวหอสร้างจากหินอ่อนทั้งหลัง หลังคาทรงแปดเหลี่ยมสามารถเข้าชมส่วนการแสดงได้ทั้งสองชั้น น่าเสียดายที่รอบนี้เรามาส่วนภายในปิดปรับปรุง เลยเดินเตร็ดเตร่ดูการซ้อมดนตรีหรือการเต้นของนักศึกษา เนื่องจากพื้นที่มีน้อยลานแถวนี้จึงเป็นสนามซ้อมให้กับหลายคน

        สุดท้ายมาช็อปกันที่ซีเหมินติง ซึ่งมีร้านค้ามากมายเหมือนสยามสแควร์บ้านเรา มีทั้งเสื้อผ้าและของใช้ให้ซื้อกลับบ้าน โดยเฉพาะรองเท้าของผ้าใบแฟชั่นของที่นี่ราคาถูกมากโขทีเดียว

ไต้หวันในลมหนาวไม่ได้มีเพียงความโรแมนติกที่ซ่อนอยู่ แต่รอยยิ้มของผู้ร่วมเดินทางก็สำคัญเช่นกัน

ขอขอบคุณ : เมจิก ออน ทัวร์ / โทร. 02 444 3173 , 089 219 0822 / www.Magic-OnTours.com
(ล้อมกรอบ)
ฤดูต่างๆ ร้อนชื้นแบบใกล้เขตร้อน ฤดูร้อน (พ.ค.-ก.ย.) อุณหภูมิเฉลี่ย 27 - 35 C ฤดูหนาว (ธ.ค.-ก.พ.) อุณหภูมิเฉลี่ย 10 C
  สกุลเงิน 1 เหรียญไต้หวัน = 1.34 บาท
การเดินทาง มีเที่ยวบินบินตรงอยู่ตลอด
ของฝาก พายสับปะรด ชา เสื้อผ้า รองเท้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น