เรื่องราวมีดีสถานที่น่าเที่ยว " เกาะไต้หวัน "
พรุ่งนี้ๆจ๊ะ " หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ หน้า 4 คอลัมภ์วาไรตี้ พาเที่ยวต่างแดง " ฉบับ วันเสาร์ ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2556
敬請期待…2013年2月16日刊登之泰國"每日日報"第四頁,介紹台灣景點的"帶你遊世界"專欄。
.... เมจิกออนทัวร์ พาเจาะลึก " ไต้หวัน " ในความเป็นอยู่
เรียนรู้สิ่งเก่า ต่อเติมสิ่งใหม่ .... เที่ยวให้แปลก เที่ยวให้ต่างบนเส้นทางสวยงามแปลกใหม่ ค้นพบมหัศจรรย์ท่องเที่ยวมุมใหม่ @ ไต้หวันเมืองในฝัน
.
สนใจข้อมูลเพิ่มเติม ติดตามอ่านได้ใน
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับ วันเสาร์ ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2556
เล่มใหญ่ หน้า 4 คอลัมภ์วาไรตี้ พาเที่ยวต่างแดง
“ไต้หวัน”ในความเป็นอยู่
เรียนรู้เก่าต่อเติมสิ่งใหม่
“ฟ้าสูงแต่มือต่ำ” กลางดึกเหน็บหนาวไกด์หนุ่มทิ้งภาษิตให้เรานอนคิดเมื่อถามถึงค่านิยมคนรุ่นใหม่ของไต้หวัน
เป็นเรื่องน่ากลัวไม่ต่างจากเส้นทางหนุ่มสาวบ้านเรา ทำไมนะเหรอ
ก็เมื่อเรามุ่งแต่เรียนๆ สอบๆ เพื่อให้ได้ใบปริญญาขั้นสูงสุด
แต่ไม่เคยได้ลงมือทำงานจริง ครั้นจบไปสมัครงานกลับเรียกเงินเดือนสูงเหมือนท้องฟ้า
ทั้งที่ฝีมืออยู่เรี่ยดิน
อย่าเพิ่งพลิกอ่านหน้าอื่น...
ที่บอกอย่างนี้เพราะกลัวเครียดกันเสียก่อน ด้วยไต้หวันแม้เป็นเกาะ แต่ผสมผสานวัฒนธรรมมากมาย
ตั้งแต่ชนพื้นเมืองและการเข้ามาของจีนแผ่นดินใหญ่ รวมถึงชาวต่างชาติแถบถิ่นยุโรป
หรือการเข้ามาปกครองของญี่ปุ่นที่ดูแล้วมีอิทธิพลต่อความคิดการพัฒนาไต้หวันไม่น้อย
ก่อนไปมองอนาคต
ลองย้อนดูอดีตที่เมืองไถจง ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเมืองทั้งหมดผ่านหมู่บ้านโบราณฟอร์โมซา
ที่เปิดให้บริการมาได้พักหนึ่ง สนนราคาค่าเข้า 150 บาทต่อคน ด้านในแบ่งออกเป็น 4
โซน โดยจัดวางตกแต่งในรูปแบบบ้านตามช่วงเวลาตั้งแต่
ชนพื้นถิ่นจนการเข้ามาของชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ที่สำคัญหากใครชอบโปสเตอร์ในยุค 60
คงสนุกเป็นพิเศษ
ส่วนแบบบ้านไม้น่าสนใจ
เแม้เป็นบ้านจำลองแต่ยังเน้นรายละเอียดด้านนอกทั้งมุมหลังคา และเนื้อไม้ในการตกแต่ง
พื้นที่ชั้นล่างส่วนใหญ่เป็นร้ายขายของและร้านอาหาร หรือลองนั่งกินริมทางมีการจัดชุดเก้าอี้แบบนั่งยองๆ
ซึมซับบรรยากาศริมถนนของตึกก่ออิฐแดง
รอบนี้เรามากับ “เมจิกออนทัวร์” ไต้หวันแรกเริ่มการเข้ามาของสมาชิกพรรคก๊กมินตั๋ง
ที่ตั้งถิ่นฐานหลังขัดแย้งกับจีนแผ่นดินใหญ่ ภายใต้การนำของนายพลเจียง ไคเชก
แยกกรมกองต่างๆ เป็นเหมือนหมู่บ้าน
และด้วยความหลากหลายของคนที่อพยพมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ในหลายพื้นที่ทำให้อาหารการกินถูกผสมผสาน
จนเป็นรสชาติน่าลิ้มลองไม่น้อย
นั่นเป็นแนวคิดต่อมาในการผสมผสานเพื่อให้เกิดสิ่งใหม่อย่างชานมไข่มุกที่
“ร้านชุนซ่วยถัง” ถือเป็นเจ้าตำหรับเมื่อเจ้าของร้านเกิดปิ๊งไอเดียครั้งเดินทางไปญี่ปุ่น
เห็นการผสมค็อกเทลจึงนำแนวคิดเหล่านั้นมาผสมจนได้สูตรใหม่ ซึ่งครั้งนี้นอกจากเราจะได้ลองทำชานมไข่มุกแล้ว
ยังได้ชิมชาตามขนบของที่นี่อีกด้วย
การชงชาของไต้หวันรับอิทธิพลจากราชวงศ์ซ่งของจีน
สิ่งสำคัญในการดื่มด่ำให้ถึงอารมณ์รสชาอยู่ที่ กลิ่นกำยาน ดอกไม้ในแจกัน ภาพวาด
และการบริการ กระบวนการทำผู้ชงต้องมีความรู้เกี่ยวกับชาอย่างปรุโปร่งผ่านกลิ่นรวมถึงที่มาของชา
เพื่อเลือกกาน้ำในการชงให้เหมาะสม เมื่อถึงการดื่มตามธรรมเนียมควรดื่มให้ได้ 3
จอกต่อแก้ว ไม่ควรดื่มรวดเดียวหมดในคราวเดียว ขั้นตอนการชงผู้ชงจะไม่พูดคุยกับผู้อื่นเพื่อไม่ให้สิ่งสกปรกต่างๆ
ลงไปยังภาชนะที่ชงอยู่
คืนนี้ได้ชาอุ่นๆ
ทำให้ผ่อนคลายดีไม่น้อย เลยลองแวะเดินตลาด “ฝงเจี๋ยไนท์มาร์เก็ต” ก่อนเข้านอนออมแรงไว้เดินทางต่อวันพรุ่งนี้
รุ่งขึ้นไปต่อยังเมืองหน่านโถเข้าชม
“ซีโถหมู่บ้านปีศาจ”เป็นที่นิยมของวัยรุ่นชาวไต้หวันมาพักผ่อนในธรรมชาติ
เต็มไปด้วยต้นส้นเหยียดยอดท้าแสงแดด จริงแล้วกว่าต้นไม้เหล่านั้นจะสูงใหญ่ได้ขนาดนี้ต้องผ่านทั้งช่วงเวลาดีและไม่ดีมามากมาย
ซึ่งเริ่มแรกช่วงที่ชาวญี่ปุ่นเข้ามาปกครองไต้หวัน มีคุณลุงแดนอาทิตย์อุทัยมาปลูกต้นไม้พรวนดินอยู่ที่นี่เพื่อหวังให้เป็นอุทยานธรรมชาติ
จนวันหนึ่งแกโค่นต้นไม้เพื่อนำไปใช้ แต่เคราะห์ร้ายไม้ใหญ่โค่นเกือบล้มทับ โชคดีมีก้อนหินใหญ่ค้ำไว้ก่อน
หลังจากนั้นแกไม่ตัดต้นไม้ในนี้อีกเลย จนที่สุดคุณลุงกลับประเทศและส่งไม้ต่อให้ชาวไต้หวันดูแลพัฒนาสู่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ
สัญลักษณ์ของที่นี่คือเจ้าหมีตามขนบธรรมเนียมแบบญี่ปุ่น
จึงให้ชื่อหมู่บ้านปีศาจเพื่อขับไล่ความชั่วร้าย ขณะเดียวกันการตกแต่งส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจากแดนอาทิตย์อุทัย
ถ้าลองเดินเล่นไปด้วยกินไปด้วยไม่รีบร้อนนับว่าเหมาะกับหลายคู่รักควรมาเที่ยว
หลังจากนั้นเดินทางไปตำบลจี๋จี๋
ในเมืองหน่านโถ เพื่อขึ้นรถไฟสายเก่าที่ยังมีการอนุรักษณ์อยู่
เพราะเมืองนี้แต่เดิมเป็นเส้นทางขนไม้อันสำคัญที่นำออกมาจากภูเขา
ซึ่งเส้นทางรถไฟคือการลำเลียงที่ดีที่สุดในช่วงนั้น ที่สำคัญสถานีรถไฟจี๋จี๋ก็คลาสสิกไม่เบา
ด้วยรูปโฉมออกแบบเรียบง่ายเน้นการใช้สอน แต่มีลวดลายไม้เก๋ๆ ซ่อนอยู่ในหลายมุม
ยิ่งกว่านั้นเมื่อแผ่นดินไหวในปี 2542
ชาวเมืองต่างยึดสถานีรถไฟแห่งนี้เป็นที่แรกในการฟื้นฟูเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ของชาวเมือง
ถือเป็นอีกสถานที่สำคัญทางจิตใจไม่น้อย
เมื่อรถไฟมาเราต้องนั่งต่อไปอีกสามสถานี
สองข้างทางเต็มไปด้วยภูเขาและพื้นที่โล่งกว้าง
และเมื่อถึงสถานีปลายทางเบื้องหน้าคือภูเขาสูงชัน
ละแวกเดียวกันมีโบกี้รถไฟเก่าเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับเส้นทางสายเก่าแห่งนี้
ซึ่งพอเดินขึ้นไปอีกหน่อยจะเจอโรงงานจำลองการขนไม้ในสมัยก่อนที่ผ่านการแปรรูปอาบน้ำยาก่อนขนส่ง
ไหนๆ
โยงถึงเรื่องเศรษฐกิจ
เราเลยมีคำถามไปยังไกด์หนุ่มถึงความความรู้สึกคนไต้หวันในการรวมประชาคมอาเซียนอีกไม่กี่ปี
สิ่งที่ได้คือคนไต้หวันวิตกกังวลไม่น้อยเพราะประเทศแถบอาเซียนไต้หวันค่อนข้างมีบทบาทในการจับมืออยู่น้อย
เมื่อเทียบกับพี่เบิ้มหลายๆ ชาติ ซึ่งนี่หากมองย้อนกลับไปสำหรับนักลงทุนไทยเองไต้หวันถือเป็นอีกตลาดที่น่านำกลับไปขบคิดไม่น้อย
ตกเย็นล่องเรือกันที่ทะเลสาบสุริยันจันทรา
แม้ลมหนาวโหมพัดกันจนสะท้าน แต่ทะเลสาบน้ำจืดที่นี่ก็มีคนมาเที่ยวไม่ได้ขาด
ซึ่งเดิมมีเกาะกลางขนาดพอประมาณมีชาวพื้นเมืองอาศัย แต่หลังจากแผ่นดินไหวและสร้างเขื่อนทำให้แผ่นดินกลางทะเลสาบหายไป
จนชาวบ้านต้องอพยพขึ้นฝั่ง
ไฮไลท์นอกจากจะล่องเรือแล้ว
ต้องแวะวัดพระถังซำจั๋ง ที่อยู่บนสุดของอีกฝั่งทะเลสาบ
แต่ก่อนจะขึ้นไปวัดต้องแวะร้านไข่พะโล้เจ้าดัง ที่เป็นร้านเดียวในย่านนี้
เนื่องจากสมัยนายพลเจียง ไคเชก มีชีวิตอยู่มาที่นี้ต้องแวะกินประจำ
จนเซ็นใบรับรองให้ขายได้ในสถานที่แห่งนี้
คืนนี้การท่องเที่ยวไต้หวัน
จ.หนานโถ จัดเลี้ยงต้อนรับและเชิญชวนให้นักท่องเที่ยว
เข้ามาสัมผัสความงดงามที่เที่ยวได้ตลอดปี แถมราคายังไม่แพงอย่างที่คิด
ปัจจุบันล้วนมีร่องรอยอดีตแฝงอยู่เสมอ
แน่นอนว่าความเป็นไต้หวันและมิตรไมตรีของผู้คนก็ผ่านการหล่อหลอมเหล่านั้นมา
(ล้อมกรอบ)
การเดินทางสายการบิน
China Airlines และสายการบินอื่นๆ
ให้บริการจากกรุงเทพฯ ถึงไต้หวันทุกวัน
สภาพภูมิอากาศ เกาะไต้หวันตั้งอยู่ระหว่างเขตร้อนและกึ่งเขตร้อน
ทำให้ที่นี่อากาศเย็นสบาย ไม่ร้อนหรือหนาวเกินไป อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 22
องศาเซลเซียสต่อปี (ไม่รวมพื้นที่ๆ อยู่บนยอดเขาสูง) อาจจะมีหิมะในพื้นที่ๆ
อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 3,000 เมตรขึ้นไป มีฝนตกชุกและมีพายุพัดผ่านบ่อยครั้ง
เวลาในประเทศไต้หวัน เร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง
ภาษาจีนกลาง (Mandarin) เป็นภาษาราชการ ฮกเกี้ยน
(หมิ่นหนาน) เป็นภาษาท้องถิ่นที่ใช้ทั่วไปคู่กับจีนกลาง
ข้าราชการระดับสูงทั่วไปสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้
เงินตราใช้สกุลเงิน เหรียญไต้หวัน (New Taiwan Dollar : NTD) 35.06 NTD = 1 USD หรือ 1
เหรียญไต้หวัน = 1.2168 บาท
ของฝาก รองเท้า
งานแกะไม้และงานฝีมือ ขนม ใบชา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น